ความแตกต่างระหว่าง “ธุรกิจขายตรง” กับ “แชร์ลูกโซ่”

ในยุคที่การทำธุรกิจออนไลน์กำลังเฟื่องฟู การเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของการลงทุนจึงมีความสำคัญยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่าง “ธุรกิจขายตรง” และ “แชร์ลูกโซ่” โดยเริ่มมีการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545” เนื่องจากเริ่มมีการระบาดของธุรกิจแอบแฝงที่เรียกว่า “แชร์ลูกโซ่” ที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมาก พระราชบัญญัตินี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจนสำหรับธุรกิจขายตรง ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคและการปกป้องสิทธิของผู้ลงทุนอีกด้วย

การขายตรง เป็นโมเดลธุรกิจที่ผู้ขายสามารถจำหน่ายสินค้าโดยตรงให้กับผู้บริโภค โดยไม่ต้องมีการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าหรือช่องทางการขายอื่น ๆ ซึ่งลักษณะสำคัญของการขายตรง 

1.ผู้ประกอบธุรกิจต้องจดทะเบียนก่อนการประกอบธุรกิจขายตรงกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

2.ค่าธรรมเนียมในการสมัครเป็นผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรงต้องมีความเหมาะสม เงินค่าสมัครจ่ายเพื่อคู่มือความรู้ เอกสารฝึกอบรม และสินค้าตัวอย่างเท่านั้น

3.มีความรับผิดชอบต่อผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง โดยมีแผนธุรกิจที่เป็นไปได้จริง และคำนึงถึงการดำเนินธุรกิจในระยะยาว

4.การจ่ายผลตอบแทน รายได้ และตำแหน่ง ให้แก่ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง ต้องมาจากการขายสินค้าหรือบริการ ไม่ใช่การระดมทุนหรือใช้เงินซื้อตำแหน่ง โดยผู้ประกอบการจะต้องยื่นแผนธุรกิจในการจ่ายผลตอบแทนเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาและอนุมัติ

5.เน้นการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ ยอดขายมาจากการจำหน่ายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคโดยตรอ ไม่ได้มาจากการกักตุนสินค้าของผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง และคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ

6.มีการรับประกันความพอใจของสินค้า โดยลูกค้าสามารถคืนสินค้ากับบริษัทได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

7.มีกฎระเบียบที่เข้มงวดในการดำเนินธุรกิจ เพื่อปกป้องผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง และผู้บริโภค

8.ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้จำหน่ายอิสระหรือตัวแทนขายตรง ต้องไม่กล่าวอ้างหรือโฆษณาสรรพคุณของสินค้าเกินจริง

การแชร์ลูกโซ่ เป็นกลโกงทางการเงินที่มีรูปแบบการดำเนินงานคล้ายคลึงกับธุรกิจขายตรง แต่ไม่มีการขายสินค้าหรือบริการที่แท้จริง ฃโดยมักจะสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทที่น่าเชื่อถือและมีอนาคตที่สดใส อ้างว่ามีผลตอบแทนที่สูงและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในระยะเวลาอันสั้น ลักษณะสำคัญของแชร์ลูกโซ่ 

  1. ค่าธรรมเนียมจากการสมัครสูง ผู้สมัครจะถูกหลอกให้จ่ายค่าฝึกอบรมและซื้อสินค้าเกินความต้องการ ผลกำไรของระบบปิระมิดส่วนใหญ่จะมาจากการรับสมัครสมาชิก
  2. ไม่สนใจที่จะจำหน่ายสินค้าคุณภาพ สินค้าส่วนใหญ่จะมีคุณภาพต่ำและได้ผลกำไรสูง รายได้จะมาจากการรับสมัครสมาชิกใหม่ ซึ่งจะถูกบังคับให้ซื้อสินค้าที่มีราคาสูงเป็นจำนวนมาก
  3. ไม่มีนโยบายรับซื้อสินค้ากลับคืน เพราะนโยบายนี้จะทำให้ ระบบปิระมิดล้มได้
  4. ร่ำรวยในเวลาอันรวดเร็ว (Get-rich-quick scheme) ผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่ฐานของปิระมิดจะเป็นผู้จ่ายเงินให้แก่คนไม่กี่คนที่อยู่ในระดับจุดยอดของปิระมิด ซึ่งธุรกิจรูปแบบนี้ไม่สามารถอยู่ได้ยาวนาน
  5. ตำแหน่งในระบบสามารถซื้อได้
  6. ระบบนี้ไม่เน้นการขายสินค้าให้กับผู้บริโภค แต่ผลกำไรจะมาจากสมาชิกที่สมัครใหม่ ซึ่งพวกเขาจะต้องซื้อสินค้าเก็บตุน ไม่ใช่เพราะสินค้ามีประโยชน์หรือมีราคาดี แต่ถูกบังคับให้ซื้อตามระบบ สมาชิกใหม่จะรับภาระกับสินค้าที่ตนขายไม่ได้ และเมื่อระบบปิระมิดนี้ล้ม พวกเขาจะไม่ได้รับเงินลงทุนกลับคืนเลย
  7. ฉ้อฉลหลอกลวงคนให้เข้ามาในระบบ
  8. ผู้เข้าร่วมจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการสมัครที่สูงหรือจ่ายค่าสินค้าที่ถูกบังคับให้ซื้อในตอนที่สมัคร
  9. ในระบบนี้จะเน้นการรับสมัครสมาชิกใหม่เป็นหลัก และบังคับให้ซื้อสินค้าเมื่อเริ่มสมัคร แต่ไม่สนใจการขายสินค้าจริงๆ หรือบริการหลังการขาย
  10. เป็นระบบที่ผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และหลายประเทศที่พัฒนาแล้วในเอเชีย

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองรูปแบบนี้อยู่ที่ธรรมชาติของการดำเนินธุรกิจและความโปร่งใส ในขณะที่ธุรกิจขายตรงเน้นการขายสินค้าหรือบริการอย่างแท้จริง และมีการดำเนินการตามกฎหมาย แชร์ลูกโซ่กลับใช้กลยุทธ์การหลอกลวงที่สร้างความเสียหายให้กับผู้ลงทุนอย่างร้ายแรง