การแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นสิทธิของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการ พูด เขียน หรือในปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน โลกออนไลน์กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี แต่บางครั้งก็มักมีการใช้ถ้อยคำที่อาจกระทบกระเทือนผู้อื่น โดยเฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือแสดงความคิดเห็นที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
การพูดแสดงความคิดเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจหรือขาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ผลกระทบจากการกระทำเหล่านี้สามารถรุนแรงและมีผลเสียได้ทั้งในระดับบุคคลและสังคม อาจนำไปสู่ข้อหาหมิ่นประมาทได้ ตัวอย่างเช่น การพูดถึงเรื่องส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่ได้รับการยินยอม การแพร่ข่าวสารที่ไม่ได้ตรวจสอบความจริง การให้ความเห็นเกี่ยวกับบุคคลอื่นโดยใช้คำพูดที่อาจทำให้บุคคลนั้นเสียหาย หรือการใช้คำพูดที่บ่งบอกถึงการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของคนอื่น หากคำพูดนั้นทำให้ผู้ถูกพาดพิงเสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่น ก็อาจเข้าข่ายเป็นความผิดได้
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ได้บัญญัติว่า “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท”
ซึ่งการหมิ่นประมาทอาจเกิดได้ทั้งในชีวิตประจำวันและผ่านสื่อออนไลน์ เช่น การโพสต์ข้อความที่ไม่เป็นความจริงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 328 หากมีการเผยแพร่ผ่านเอกสาร ภาพถ่าย หรือการสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์
ดังนั้นแล้ว การพูดโดยไม่คิดอาจนำมาซึ่งความผิดฐานหมิ่นประมาทได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนและอาจส่งผลกระทบต่อทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ การปฏิบัติตามกฎหมายและแสดงความเห็นอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาและรักษาสัมพันธภาพในสังคมได้