การทารุณกรรมหรือการใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่นเป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายทางร่างกาย จิตใจ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ถูกกระทำ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในระดับบุคคลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความล้มเหลวในเชิงสังคม การทารุณกรรมมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่การใช้ความรุนแรงทางร่างกายและจิตใจ การล่วงละเมิดทางเพศ ไปจนถึงการกดขี่หรือแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่เป็นธรรม
ในประเทศไทยก็เกิดเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายผู้อื่นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในรูปแบบของการใช้กำลังหรือความรุนแรงเพื่อข่มเหงผู้อื่น ซึ่งมักเกิดขึ้นในหลากหลายบริบท ตั้งแต่การทำร้ายในครอบครัวไปจนถึงการทำร้ายในที่ทำงานหรือในสังคมทั่วไป โดยบางกรณีก็ได้รับการรายงานข่าวและได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในระดับหนึ่ง และมีกฎหมายที่เข้มงวดในการป้องกันและลงโทษผู้ที่กระทำความรุนแรงต่อผู้อื่น ดังนี้
โทษทางอาญา ข้อหาทำร้ายร่างกาย
• ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
• ทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 200,000 บาท
• กรณีประมาท และทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
• กรณีเป็นทำร้ายร่างกาย แต่ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตราย (ลหุโทษ) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความรุนแรงนี้เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบรุนแรงในทุกระดับของสังคม การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่การสร้างความตระหนักรู้ในสังคม การออกกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการสนับสนุนผู้ถูกกระทำอย่างครบวงจร สังคมที่ปราศจากความรุนแรงและการทารุณกรรมจะช่วยสร้างความเท่าเทียมและความสุขแก่ทุกคนอย่างแท้จริง