การลักลอบเข้าเมืองหรือการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกและมีผลกระทบต่อหลายมิติ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง การลักลอบเข้าเมืองหรือการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หมายถึง การเข้าสู่ประเทศโดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าเมืองของประเทศปลายทาง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานโดยบุคคลที่สาม หรือการลักลอบเข้าเมืองด้วยตนเองของผู้โยกย้ายถิ่นฐานหรือคนต่างด้าว การกระทำดังกล่าวมักนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติในหลากหลายรูปแบบ เช่น การขนส่งยาเสพติด การก่อการร้าย และการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ในแต่ละปี มีการจับกุมคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน
สำหรับประเทศไทย คนต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามามักเป็นแรงงานที่สามารถหารายได้ในประเทศไทยสูงกว่าประเทศของตนโดยมักเข้ามาทำงานในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการ ซึ่งยังขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก โดยการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในประเทศไทยเกิดจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อนและเกี่ยวเนื่องกัน ดังนี้
- ปัญหาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ในประเทศต้นทาง
ประชากรจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม มักเลือกมาทำงานในประเทศไทย เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยพัฒนามากกว่า มีการลงทุนที่ต่อเนื่อง และอัตราค่าจ้างแรงงานสูงกว่าประเทศของตน ซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถสร้างรายได้เพื่อนำไปเลี้ยงดูครอบครัวได้ดีกว่า
- ช่องทางธรรมชาติที่ง่ายต่อการลักลอบเข้าเมือง
ประเทศไทยมีพรมแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งเมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย รวมระยะทางทั้งสิ้น 5,647 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีเขตแดนทางทะเลที่ครอบคลุม 23 จังหวัดชายทะเล รวม 3,151 กิโลเมตร ทำให้มีช่องทางธรรมชาติหลายจุดที่สามารถลักลอบเข้าเมืองได้โดยยากต่อการควบคุมจากเจ้าหน้าที่
- กระบวนการขึ้นทะเบียนแรงงานถูกกฎหมายที่ซับซ้อน
การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยมักมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ใช้เวลานาน และมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งในเรื่องของการพิสูจน์สัญชาติและการจัดทำเอกสาร รวมถึงปัญหาการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ทั่วถึง ข้อกำหนดที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง และการบังคับใช้กฎหมายที่ยังขาดประสิทธิภาพ ทำให้ทั้งนายจ้างและแรงงานไม่จูงใจที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย
- การขาดการทำงานแบบบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงานต่าง ๆ เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน กองทัพบก และกองทัพเรือ มักขาดการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การควบคุมและป้องกันการลักลอบเข้าเมืองขาดความเป็นเอกภาพ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่บางส่วนยังขาดทักษะที่จำเป็น เช่น ความรู้เกี่ยวกับภูมิศาสตร์ในพื้นที่ชายแดน ทักษะภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่คนร้ายใช้ในการสื่อสาร
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองนำมาสู่ความท้าทายด้านความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงความเสี่ยงในการเกิดอาชญากรรมและการแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นความท้าทายที่ต้องการความร่วมมือระหว่างประเทศและการพัฒนามาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงช่วยลดปัญหาด้านความมั่นคงและอาชญากรรม แต่ยังช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย