Call Us

Location

กฎหมายคุ้มครองการใช้แรงงานเด็ก

แรงงานเด็ก คือ ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง 18 ปี  โดยการทำงานนั้นเป็นการทำงานเต็มเวลา ที่มีชั่วโมงการทำงานระหว่าง 14-43 ชั่วโมง/สัปดาห์ การใช้แรงงานเด็กในลักษณะที่ละเมิดกฎหมายหรือข้อบังคับที่กำหนดขึ้นนั้นเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะด้านการศึกษา สุขภาพ และพัฒนาการทางสังคมและจิตใจ เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิและความปลอดภัยของเด็ก สร้างอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษา จำกัดสิทธิและโอกาสในอนาคตของเด็ก 

ดังนั้น นายจ้างที่จะจ้างแรงงานเด็กต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายและจริยธรรม นายจ้างที่จ้างเด็กต้องทราบข้อกำหนดและข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานเด็กเพื่อให้การจ้างงานนั้นเป็นไปตามกฎหมายและคุ้มครองสิทธิของเด็กอย่างถูกต้องตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็ก

1. ห้ามนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง

ตามมาตรา 44 ของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ห้ามมิให้นายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีมาเป็นลูกจ้าง เนื่องจากเด็กในวัยนี้ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและอาจได้รับผลกระทบทางร่างกายและจิตใจจากการทำงาน

2. การจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

สำหรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 15-18 ปี หากนายจ้างต้องการจ้างงานเด็กในช่วงอายุดังกล่าว จะต้องแจ้งให้พนักงานตรวจแรงงานทราบภายใน 15 วันนับจากวันที่เด็กเข้าทำงาน และต้องแจ้งการสิ้นสุดการจ้างงานต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 7 วัน นอกจากนี้ นายจ้างต้องจัดให้เด็กมีเวลาพักอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเมื่อทำงานติดต่อกันเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หรืออาจจัดให้มีเวลาพักย่อยตามที่เห็นสมควร

3. ห้ามทำงานในช่วงเวลากลางคืน

นายจ้างไม่สามารถให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานในช่วงเวลาที่ระบุไว้ในกฎหมาย คือระหว่างเวลา 22.00 – 06.00 น. ยกเว้นในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ซึ่งการทำงานในช่วงเวลาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก

4. ห้ามทำงานล่วงเวลา

ตามมาตรา 48 ห้ามนายจ้างให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่มีความเสี่ยงหรือจำเป็นต้องใช้ความทุ่มเทมากเกินไปสำหรับวัยของเด็ก

5. ห้ามทำงานในสภาพแวดล้อมที่อันตราย

กฎหมายห้ามมิให้นายจ้างให้เด็กทำงานในสภาพแวดล้อมที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น งานหลอมโลหะ, งานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย, งานในที่มีความร้อนหรือความเย็นจัด, งานที่เกี่ยวกับสารพิษหรือเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจเป็นอันตราย รวมทั้งงานในสถานที่ที่มีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุเช่น งานขุดเจาะใต้ดินหรืองานที่ต้องทำในพื้นที่สูง

6. ห้ามทำงานในสถานที่เสี่ยง

ห้ามให้เด็กทำงานในสถานที่เสี่ยงอื่น ๆ เช่น โรงฆ่าสัตว์, สถานที่เล่นการพนัน, สถานที่ที่มีการบริการทางเพศหรือสถานที่ที่มีการให้บริการที่ไม่เหมาะสม รวมถึงสถานที่ที่อาจมีผลกระทบทางจิตใจและสังคมต่อเด็ก

7. การจ่ายค่าจ้างและการรับเงินประกัน

นายจ้างห้ามจ่ายค่าจ้างของลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กแก่บุคคลอื่น รวมถึงห้ามเรียกเก็บเงินประกันจากเด็ก นอกจากนี้ นายจ้างยังไม่สามารถนำเงินหรือประโยชน์ตอบแทนใด ๆ ที่ได้จ่ายให้แก่เด็กมาหักจากค่าจ้างที่ต้องจ่ายให้แก่เด็ก

8. สิทธิในการลาเพื่อการศึกษา

ลูกจ้างที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมีสิทธิ์ในการลาเพื่อเข้าร่วมการประชุม สัมมนา การอบรม หรือการฝึก ซึ่งจัดโดยสถานศึกษา หรือหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่ได้รับการเห็นชอบจากอธิบดี โดยในระหว่างที่ลา นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่เด็กเหมือนกับวันที่ทำงานปกติ โดยการลาไม่เกิน 30 วันในหนึ่งปี

การปฏิบัติตามข้อกฎหมายเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยคุ้มครองเด็ก แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้นายจ้างเผชิญกับบทลงโทษที่รุนแรง เช่น การปรับเงินหรือการจำคุก ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย แม้ว่าจะมีกฎหมายที่คุ้มครองและมาตรการต่างๆ ที่มีการกำหนดขึ้น แต่การใช้แรงงานเด็กในบางพื้นที่ยังคงเกิดขึ้น การบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ การส่งเสริมการศึกษา และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับครอบครัวที่ยากจนจะช่วยลดปัญหาการใช้แรงงานเด็กในระยะยาว และสร้างสังคมที่ปลอดภัยและเป็นธรรมสำหรับเด็กทุกคนในประเทศไทย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *