ในสังคมปัจจุบัน การเข้าถึงความยุติธรรมและบริการทางกฎหมายเป็นสิทธิพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับ แต่ในหลายกรณี ผู้คนจำนวนมากยังขาดโอกาสในการเข้าถึงทนายความที่มีคุณภาพ เนื่องจากข้อจำกัดทางการเงิน หรือความไม่รู้เกี่ยวกับกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของการให้บริการโดยทนายอาสา
ทนายอาสา คือ ทนายความที่เป็นอาสาสมัคร ทำหน้าที่บริการให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยทนายอาสาจะนั่งเวรให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชนที่สภาทนายความหรือที่ศาลตามวันเวลาที่กำหนด เน้นการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือในกรณีที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือทางกฎหมาย แต่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทนายความที่มีค่าใช้จ่ายสูงได้ ซึ่งจะเป็นไป ตาม พรบ.ทนายความ มาตรา 78 ที่กำหนดไว้ว่า “ประชาชนผู้มี สิทธิได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายต้องเป็นผู้ยากไร้และไม่ได้ รับความเป็นธรรม”
ซึ่งทนายอาสาจะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายเท่านั้น ไม่สามารถที่จะติดต่อมาขอว่าความเองทีหลังหรือรับทำคดีฟรีเองได้ เพราะทนายความนั้นถือเป็นวิชาชีพที่ต้องอาศัยความรู้และความสามารถเฉพาะด้าน เพื่อให้บริการทางกฎหมายที่มีคุณภาพแก่ลูกความ ดังนั้น การว่าความฟรีในฐานะทนายอาสาจึงต้องมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดไม่ใช่ใครก็ทำได้โดยพละการ อีกทั้งยังต้องอยู่ภายใต้หน่วยงานต้นสังกัด เช่น สภาทนายความ หรือ สำนักงานอัยการ ที่เป็นผู้จัดสรรค่าตอบแทนให้กับทนายอาสา ตามข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย พ.ศ. 2529 ข้อ 16 ระบุไว้ชัดเจนว่า“ประชาชนผู้ได้รับความช่วยเหลือไม่ต้องเสียค่าทนายความ หรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ให้แก่ทนายความผู้ดำเนินการทั้งสิ้น”
ดังนั้น ทนายอาสามีข้อดีหลายประการที่ส่งผลดีต่อสังคมและผู้ที่ได้รับบริการทางกฎหมาย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความยุติธรรมในสังคม โดยการให้บริการที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายช่วยให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางกฎหมายสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียม