-
แห่อาลัย ‘แบงค์ เลสเตอร์’ อินฟลูฯดัง เสียชีวิตหลังถูกจ้างดื่มเหล้าปริมาณมากแลกเงิน 30,000 บาท
Read More: แห่อาลัย ‘แบงค์ เลสเตอร์’ อินฟลูฯดัง เสียชีวิตหลังถูกจ้างดื่มเหล้าปริมาณมากแลกเงิน 30,000 บาทวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวเศร้าของวงการอินฟลูเอนเซอร์ไทย หลังการเสียชีวิตของ นายธนาคาร คันธี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แบงค์ เลสเตอร์” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังและแร็พเปอร์ผู้มีเอกลักษณ์ในการแร็พขายพวงมาลัยเพื่อเลี้ยงดูคุณยาย หมอแล็บแพนด้า หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจและแจ้งข่าวการเสียชีวิตของแบงค์ เลสเตอร์ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ‘แบงค์ เลสเตอร์’ น้องเป็นอินฟลูที่ดังมาจากการแร็พขายพวงมาลัยเลี้ยงคุณยาย พักหลัง ๆ มักจะมีคนจ้างให้น้องกินอะไรแปลก ๆ ล่าสุดน้องได้เสียชีวิตแล้ว ในช่วงประมาณ 03.40 น.ที่ผ่านมา” สำหรับสาเหตุการเสียชีวิต มีรายงานว่า แบงค์ เลสเตอร์ ถูกจ้างให้ดื่มเหล้าขวดใหญ่จนหมดภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อแลกเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งเป็นปริมาณที่เกินกว่าร่างกายจะรับไหว ซึ่งการจากไปของแบงค์ เลสเตอร์สร้างความเสียใจให้กับผู้ติดตามจำนวนมากที่ชื่นชมในความพยายามของเขาในการสร้างเนื้อหาที่แปลกใหม่และมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะการแร็พขายพวงมาลัยเพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว
-
ณัฐพงษ์ซัดปมรัฐบาลซื้อไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์ ชี้นายกฯ มีอำนาจเต็มแต่ไม่ใช้
Read More: ณัฐพงษ์ซัดปมรัฐบาลซื้อไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์ ชี้นายกฯ มีอำนาจเต็มแต่ไม่ใช้วันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคารอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์ ซึ่งถูกตั้งคำถามว่าอาจเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนพลังงาน ทั้งนี้ รัฐบาลระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจยกเลิกโครงการ โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มในการยกเลิกโครงการดังกล่าว แม้โครงการจะเริ่มต้นในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 โดยบันทึกการประชุมระบุว่า กพช. กำหนดวิธีการและราคาการรับซื้อไฟฟ้าแบบไม่โปร่งใส ไม่มีการเปิดประมูล และล็อกสัญญาราคาล่วงหน้า 8 ปี ส่งผลให้ขาดการแข่งขัน อาจทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงขึ้นในอีก 25 ปีข้างหน้า นายณัฐพงษ์ย้ำว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศเดินหน้าโครงการ โดยระบุเส้นตายสำหรับการยกเลิกภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 หากเลยกำหนดนี้จะไม่สามารถยกเลิกได้ เนื่องจากระเบียบการรับซื้อระบุชัดเจนว่า…
-
5 เคล็ดลับสำหรับการบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล
Read More: 5 เคล็ดลับสำหรับการบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัลการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่การทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว HR ต้องปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการใหม่ ๆ ของพนักงานและองค์กร บทความนี้จะนำเสนอเคล็ดลับที่ช่วยให้การบริหาร HR มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 1. ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกระบวนการทำงาน การใช้ระบบ HRM (Human Resource Management System) ช่วยลดเวลาการทำงานที่ซ้ำซ้อน เช่น การจัดเก็บข้อมูลพนักงาน การทำเงินเดือน และการติดตามการฝึกอบรม เทคโนโลยีช่วยเพิ่มความแม่นยำ ลดข้อผิดพลาด และให้ HR มีเวลามุ่งเน้นไปที่การพัฒนากลยุทธ์ 2. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีคุณค่า องค์กรที่มีวัฒนธรรมที่ชัดเจนสามารถดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีศักยภาพได้ HR ควรสนับสนุนการทำงานร่วมกัน ความคิดสร้างสรรค์ และความเท่าเทียม วัฒนธรรมองค์กรที่ดีส่งผลต่อความสุขของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพงานโดยรวม 3. พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง HR ควรจัดโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสม เช่น การพัฒนาทักษะดิจิทัล การบริหารเวลา และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ 4. ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของพนักงาน สุขภาพจิตมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน HR ควรจัดให้มีช่องทางสนับสนุนพนักงาน เช่น การให้คำปรึกษา การจัดกิจกรรมลดความเครียด หรือแม้กระทั่งปรับนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น…
-
“ตู้ห่วงใย” บริการสุขภาพทางไกลเข้าถึงง่ายเพียง 30 บาท
Read More: “ตู้ห่วงใย” บริการสุขภาพทางไกลเข้าถึงง่ายเพียง 30 บาทเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ตู้ห่วงใย: บริการแพทย์ทางไกลเชิงรุกในชุมชนด้วย 30 บาทรักษาทุกที่” ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นศูนย์กลางการเดินทางที่รองรับประชาชนจำนวนมากในแต่ละวัน จึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นจุดติดตั้ง “ตู้ห่วงใย” เพื่อให้ประชาชนที่ใช้สิทธิบัตรทองสามารถเข้าถึงบริการตรวจรักษาเบื้องต้นได้สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลา รวมถึงบริการจัดส่งยาถึงบ้านหรือรับยาที่ร้านยาที่เข้าร่วม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดย “ตู้ห่วงใย” จะมีลักษณะเป็น “สถานีสุขภาพ (Health Station)” เป็นนวัตกรรมด้านการสาธารณสุขที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการตรวจสุขภาพและรับบริการทางการแพทย์ได้อย่างครอบคลุม โดยตัวตู้จะติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์ตรวจค่าสุขภาพพื้นฐานที่มีความแม่นยำ เช่น เครื่องวัดสัญญาณชีพ อุปกรณ์ตรวจวัดค่าต่างๆ ของร่างกาย เพื่อประเมินสุขภาพเบื้องต้น
-
คุณยายร่ำไห้! วอนคืนรองเท้า หลังลงทุนกว่า 80,000 บาท แต่ถูกแชร์ว่าแจกฟรี
Read More: คุณยายร่ำไห้! วอนคืนรองเท้า หลังลงทุนกว่า 80,000 บาท แต่ถูกแชร์ว่าแจกฟรีจากกรณีในโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพชาวบ้านรุมเลือก “รองเท้ามือสอง” ที่ถูกกองไว้ ณ สวนสาธารณะทุ่งหนองนามน บ้านหัวขัว ตำบลเมืองเพีย อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี โดยมีการโพสต์ระบุข้อความว่า “ไผบ่มีเกิบมาเอาเด้อครับ555 สงสัยเจ้าของใส่แล้วเลยเบื่อ พิกัดทุ่งนามนบ้านหัวขัว” จนเกิดความเข้าใจผิดว่าสิ่งของเหล่านี้แจกฟรี ล่าสุด (21 ธันวาคม) เพจ “Udonthani Update” ที่มีผู้ติดตามกว่า 880,000 คน ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลจากคุณยายรายเจ้าของรองเท้าที่ร้องสื่อด้วยความเสียใจ โดยยืนยันว่าไม่ได้แจกฟรีตามที่เข้าใจกัน ยายเป็นคนต่างจังหวัดที่ลงทุนกว่า 80,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่กู้รายวันมา เพื่อซื้อรองเท้ามือสองมาขายในงานประจำปีทุ่งศรีเมือง และมีแผนจะนำไปขายต่อที่จังหวัดเลย โดยยายเล่าว่าได้ให้คนงานขนรองเท้าจำนวนหลายกระสอบไปกองไว้ที่สวนสาธารณะทุ่งหนองนามน เพื่อรอการเคลียร์พื้นที่ที่หน้าโรงหนังวิตต้าข้างงานทุ่งศรีเมือง แต่เมื่อกลับมาถึงที่เก็บของก็พบว่ารองเท้าหายไปเกือบหมด เหลือเพียงไม่กี่กระสอบเท่านั้น ก่อนที่จะพบโพสต์ในโลกออนไลน์ว่าเป็นการแจกฟรี ด้วยความเสียใจอย่างหนัก ยายร่ำไห้และวิงวอนผู้ที่นำรองเท้าไปช่วยนำมาคืนหรือชำระเงินเพื่อช่วยแบ่งเบาความลำบาก เนื่องจากยายไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาชำระหนี้ และว่าจะดำเนินการแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้ที่นำรองเท้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
-
ภาวะหมดไฟ (Burnout syndromes)
Read More: ภาวะหมดไฟ (Burnout syndromes)ในยุคปัจจุบันที่การทำงานและชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยความเร่งรีบ หลายคนอาจเคยรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายและใจจนถึงจุดที่ไม่อยากลุกขึ้นมาทำอะไรอีก ภาวะหมดไฟเป็นภาวะที่คนจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในสังคมที่เน้นการทำงานหนักและการแข่งขันสูง ซึ่งภาวะนี้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตในที่ทำงาน โดยมีลักษณะสำคัญคือ ความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจ ความห่างเหินจากงาน และการลดลงของประสิทธิภาพการทำงานคือสภาวะที่เกิดจากความเครียดสะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพร่างกาย อารมณ์ และความสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน มีสาเหตุหลักจาก แรงกดดันที่เกิดจากการทำงาน และ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ไม่ราบรื่น เมื่อปัญหาเหล่านี้สะสมเป็นเวลานาน อาจทำให้รู้สึกว่าตนเองไม่สามารถรับมือกับงานที่มีได้ทั้งหมด ซึ่งนำไปสู่ความเครียดเรื้อรังทางอารมณ์ สาเหตุอาจรวมถึงบรรยากาศการทำงานที่ตึงเครียด ภาระงานที่หนักหน่วง หรือชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน จนทำให้พลังใจและพลังงานลดลง กลุ่มอาการของภาวะหมดไฟสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้ วิธีแก้ไขและรับมือกับภาวะหมดไฟ การฟื้นฟูจากภาวะหมดไฟต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความคิด และสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างสมดุลทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน โดยสามารถดำเนินการได้ดังนี้ 1. ปรับสภาพแวดล้อมการทำงาน 2. ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ 3. จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม 4. สร้างสมดุลชีวิตและการทำงาน 5. ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ภาวะหมดไฟเป็นปัญหาที่สามารถจัดการได้ หากเราตระหนักถึงสัญญาณเตือนและจัดการชีวิตอย่างสมดุลไม่ใช่สิ่งที่ควรละเลย เพราะหากไม่ได้รับการจัดการ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ ดังนั้นการฟังเสียงของร่างกายและใจตัวเอง พร้อมกับจัดสมดุลชีวิตและการทำงาน จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงภาวะนี้และกลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง
-
“การหมิ่นประมาท: ผลของการพูดโดยไม่คิด”
Read More: “การหมิ่นประมาท: ผลของการพูดโดยไม่คิด”การแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ เป็นสิทธิของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการ พูด เขียน หรือในปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน โลกออนไลน์กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี แต่บางครั้งก็มักมีการใช้ถ้อยคำที่อาจกระทบกระเทือนผู้อื่น โดยเฉพาะในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือแสดงความคิดเห็นที่ทำให้ผู้อื่นเสียหายหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การพูดแสดงความคิดเห็นโดยไม่ได้ตั้งใจหรือขาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ผลกระทบจากการกระทำเหล่านี้สามารถรุนแรงและมีผลเสียได้ทั้งในระดับบุคคลและสังคม อาจนำไปสู่ข้อหาหมิ่นประมาทได้ ตัวอย่างเช่น การพูดถึงเรื่องส่วนตัวของคนอื่นโดยไม่ได้รับการยินยอม การแพร่ข่าวสารที่ไม่ได้ตรวจสอบความจริง การให้ความเห็นเกี่ยวกับบุคคลอื่นโดยใช้คำพูดที่อาจทำให้บุคคลนั้นเสียหาย หรือการใช้คำพูดที่บ่งบอกถึงการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของคนอื่น หากคำพูดนั้นทำให้ผู้ถูกพาดพิงเสียชื่อเสียงหรือถูกดูหมิ่น ก็อาจเข้าข่ายเป็นความผิดได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ได้บัญญัติว่า “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท” ซึ่งการหมิ่นประมาทอาจเกิดได้ทั้งในชีวิตประจำวันและผ่านสื่อออนไลน์ เช่น การโพสต์ข้อความที่ไม่เป็นความจริงในโซเชียลมีเดีย ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 328 หากมีการเผยแพร่ผ่านเอกสาร ภาพถ่าย หรือการสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ดังนั้นแล้ว การพูดโดยไม่คิดอาจนำมาซึ่งความผิดฐานหมิ่นประมาทได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนและอาจส่งผลกระทบต่อทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ การปฏิบัติตามกฎหมายและแสดงความเห็นอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดปัญหาและรักษาสัมพันธภาพในสังคมได้
-
ดีเดย์ 16 ธ.ค. ชาวนารอรับไร่ละ 1,000
Read More: ดีเดย์ 16 ธ.ค. ชาวนารอรับไร่ละ 1,000วันนี้ (11 ธันวาคม) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเปิดเผยว่า ครม.ได้อนุมัติโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินและสนับสนุนการบริหารจัดการ รวมถึงเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 โดยจะให้เงินสนับสนุนในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ หรือสูงสุดครัวเรือนละ 10,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวเกษตรกร ซึ่งกระทรวงการคลังจะดำเนินการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรจำนวน 4.3 ล้านราย โดยใช้งบประมาณรวม 35,000 ล้านบาท การแจกจ่ายเงินจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคมนี้ ในส่วนของนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเป็นผู้ดำเนินการโอนเงินให้เกษตรกรตามรอบที่กำหนด โดยใช้เวลาประมาณ 5 วัน โดยรายละเอียดการโอนเงินแบ่งตามพื้นที่ดังนี้
-
สส.เกาหลีใต้ เตรียมถอดถอนประธานาธิบดียุผู้ประกาศกฎอัยการศึก
Read More: สส.เกาหลีใต้ เตรียมถอดถอนประธานาธิบดียุผู้ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงทางทีวีประกาศกฎอัยการศึก โดยอ้างว่า เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากการแทรกซึมของคอมมิวนิสต์ และกองกำลังต่อต้านรัฐหนุนเกาหลีเหนือ เพื่อปกป้องความสงบเรียบร้อยตามรัฐธรรมนูญเสรี การตัดสินใจนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคฝ่ายค้านและประชาชน รวมถึงการเรียกร้องให้เพิกถอนกฎดังกล่าว และต่อมา สส.190 คนจาก 300 คนประชุมสภา ลงมติเอกฉันท์ให้ยกเลิกกฎอัยการศึก สส.ทั้งหมด 18 คน จากพรรคของ ยุน ซอกยอล มาร่วมลงมติด้วย สุดท้ายประธานาธิบดีต้องเพิกถอนคำประกาศ วันนี้ (5 ธันวาคม 2567) รัฐสภาเกาหลีใต้ได้เสนอญัตติให้ถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ให้พ้นจากตำแหน่ง หลังการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งบรรดาสมาชิกพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน เตรียมที่จะเสนอให้มีการลงมติสภายื่นถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอกยอล ในเวลา 19.00 น.ของวันที่ 7 ธันวาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยบอกว่าการประกาศกฎอัยการศึกของยุนมีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงการถูกสอบสวนถึงการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเองและสมาชิกครอบครัว
-
ปัญหาการพรากผู้เยาว์ในสังคมไทย
Read More: ปัญหาการพรากผู้เยาว์ในสังคมไทยพรากผู้เยาว์ หมายถึงการพาเด็กหรือเยาวชน ผู้ที่มีอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น ต่ำกว่า 18 ปีในประเทศไทย) ออกจากความดูแลของบิดา มารดา หรือผู้ปกครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจเกิดจากการหลอกลวง ข่มขู่ หรือชักชวนโดยวิธีการต่าง ๆ ซึ่งการกระทำนี้อาจมีจุดประสงค์เพื่อการล่วงละเมิดทางเพศ การบังคับใช้แรงงาน หรือการแสวงหาผลประโยชน์อื่น ๆ โดยเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งกรณีที่ผู้เยาว์เป็นผู้เสียหายหรือผู้เยาว์เป็นคนกระทำผิดเอง โดยปัญหาการพรากผู้เยาว์เกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งความยากจนหรือขาดโอกาสทางการศึกษาทำให้ผู้ปกครองไม่สามารถดูแลบุตรหลานได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจทำให้เด็กตกเป็นเป้าหมายของผู้ไม่หวังดีที่ล่อลวงเด็กไปเพื่อแสวงหาประโยชน์ หรือ ภัยจากสื่อออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันการล่อลวงเด็กผ่านอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเป็นปัญหาใหญ่ เช่น การแกล้งทำเป็นเพื่อนหรือคนรักเพื่อหลอกเด็กออกจากบ้าน กฎหมายเกี่ยวกับการพรากผู้เยาว์ในประเทศไทย 1. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 2. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 3. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 4. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 321/1 การพรากผู้เยาว์เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และสังคม การป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ปกครอง หน่วยงานรัฐ และสังคมโดยรวม เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของอนาคตประเทศ